กลัฟเท็กซ์ ร่วมโครงโครงการทุก(ข์)ภัยไทยช่วยกัน ประสาน สปสช. ส่งมอบเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์ทางการแพทย์
กลัฟเท็กซ์ ร่วมโครงโครงการทุก(ข์)ภัยไทยช่วยกัน ประสาน สปสช. ส่งมอบเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์ทางการแพทย์รอบที่ 3
คุณ เสริมศักดิ์ วงศ์ชัย ผู้บริหารบริษัท กลัฟเท็กซ์ จำกัด ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน โครงการทุก(ข์)ภัยไทยช่วยกัน เติมน้ำใจ ต่อลมหายใจให้กับผู้ป่วยโควิด–19 ประสาน #สปสช. ส่งมอบเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์ทางการแพทย์รอบที่ 3 กระจายความช่วยเหลือสู่โรงพยาบาลกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 ณ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ – ได้มีการแถลข่าว “โครงการทุก(ข์)ภัยไทยช่วยกัน เติมน้ำใจ ต่อลมหายใจให้กับผู้ป่วยโควิด-19” โดยความร่วมมือโครงการทุก(ข์)ภัย ไทยช่วยกัน กองทัพอากาศ มูลนิธิหลักประกันสุขภาพไทย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และกรมประชาสัมพันธ์ พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่ได้การจัดหาเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นโดย กลัฟเท็กได้ นำ ชุดPAPR ไปแสดงภายในงานนี้ด้วย เพื่อส่งมอบไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ให้พี่น้องคนไทยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
น.ส.โกมล เมฆวัฒนา ประธานโครงการทุก(ข์)ภัยไทยช่วยกัน กล่าวว่า โครงการนี้เริ่มเมื่อเดือน มี.ค. 63 มีการกระจายความช่วยเหลือ ส่งมอบสิ่งของ บริจาคผ่าน สปสช.ครั้งแรกเดือน เม.ย. 63 ซึ่งสถานการณ์แพร่ระบาดในวันนั้นเราว่าหนักแล้วแต่ยังไม่เท่าวิกฤตที่คนไทยประสบในขณะนี้ จึงได้เริ่มโครงการเมื่อกลาง ก.ค. ที่ผ่านมา จับมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน เพื่อระดมทุน ในการภารกิจ “เติมน้ำใจ ต่อลมหายใจ” จัดหาเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นให้กับโรงพยาบาลที่ขาดแคลนทั่วประเทศ ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี ที่สำคัญ เราได้เห็นพลังน้ำใจขอพี่น้องคนไทยหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย ทำให้ประสบความสำเร็จในการระดมทุนอย่างเกินความคาดหมาย สามารถจัดหาอุปกรณ์ที่จะส่งมอบ เป็นเครื่องให้ออกซิเจนอัตราไหลสูง หรือ Oxygen High Flow 27 เครื่อง อุปกรณ์ปกป้องทางเดินหายใจแบบจ่ายอากาศบริสุทธิ์ (หรือ PAPR) 47 เครื่อง เครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด10 ลิตร 10 เครื่อง ยาแก้ไอ ไอ-เฮิร์บ 1000 ขวด ชุดPPE กว่า 11,000 ชุด หน้ากากอนามัย N95 กว่า 58,000 ชิ้น ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นอื่น ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ที่ขาดแคลนกว่า 100 โรงพยาบาลทั่วประเทศ คิดเป็นมูลค่าการบริจาคทั้งสิ้น 13,674,800 บาท ซึ่งจะยังคงเปิดรับบริจาคจนถึงวันที่ 30 ก.ย. หรือจนกว่าสถานการณ์โรคระบาดจะดีขึ้น