เกร็ดความรู้

ถุงมือยาง ความเหมือนที่แตกต่างของ ชนิดมีแป้ง และ ไม่มีแป้ง

ในยุคที่ทุกคนต้องระวังตัวกันมากขึ้น ถุงมือยาง ก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราอย่างขาดไม่ได้ ทำให้หลายๆ คนสนใจหาข้อมูล ว่าจริงๆ แล้วเราควรใช้ถุงมือยางแบบไหนดี ซึ่งก็มีหลากหลายแบบให้เลือกเลยล่ะ แต่วันนี้เราจะพามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับถุงมือยางแบบมีแป้ง และแบบไม่มีแป้ง เพราะจริงๆ แล้วถุงมือยางแบบมีแป้งและแบบไม่มีแป้งต่างมีหน้าที่หลักเหมือนกันคือ ช่วยป้องกันสิ่งสกปรกมาสัมผัสมือ โดยเฉพาะงานที่ต้องมีความเสี่ยงต่อสิ่งสกปรกและเชื้อโรคเช่น แพทย์ พยาบาล หรือสถานคลินิก รวมถึงอุตสาหกรรมที่ต้องดูแลเรื่องสุขอนามัยเป้นหลักนั้นเอง

ก่อนอื่นเรามาเริ่มทำความรู้จักกันที่หลักๆ นั้นมีสองประเภท คือ แบบมีแป้ง (Powdered) และ แบบไม่มีแป้ง (Powder Free) ซึ่งสองชนิดถูกคิดค้น และออกแบบให้เหมาะผู้ใช้ที่มีอาการแพ้ต่อวัสดุที่ผสมอยู่ในถุงมือยางเหล่านี้ ยกตัวอย่างเช่น ในผู้ใช้บางกลุ่มมีอาการแพ้แป้งจากถุงมือ ทำให้เกิดการระคายเคือง ขึ้นผืน แสบ คันที่บริเวณผิวหนังนั้นเองส่วนถุงมือแพทย์ชนิดไม่มีแป้ง แม้อาจจะสวมใส่ยากกว่าชนิดมีแป้งสักเล็กน้อย แต่ก็ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบดูโดยรวมแล้ว ถุงมือแบบไม่มีแป้งดูเหมือนจะมีข้อดีกว่าเกือบทุกด้าน ยกเว้นราคาที่สูงกว่าเท่านั้น

แล้วมันมีข้อดีแตกต่างกันอย่างไรล่ะ
?
การสวมถุงมือยางไม่ว่าจะมีแป้งหรือไม่มีแป้งก็ตาม ถุงมือเหล่านี้จะช่วยป้องกันการสัมผัสสิ่งต่างๆได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่เราจะไปขยี้ให้ทุกคนเข้าใจมากขึ้นอีกสักนิสดีกว่า

ถุงมือยางแบบมีแป้ง (Powdered)
หนึ่งในข้อดีของถุงมือแบบมีแป้งคือ ถุงมือมีความหนาพอที่จะปกป้องมือของผู้สวมใส่จากสารเคมีอันตรายได้ในระดับ 1 สามารถใช้งานกับเคมีในระดับนี้ได้อย่างปลอดภัย แป้งในถุงมือนั้นส่วนมากจะเป็นแป้งข้าวโพด ซึ่งเป็นแป้งที่นำมาใช้ประกอบอาหารทั่วไป ไม่มีความอันตรายใดๆ นั่นหมายถึงว่าเราสามารถสัมผัสแป้งนั้นได้โดยตรงโดยที่ไม่มีอาการแพ้หรือระคายเคือง(สำหรับผู้ที่ไม่แพ้นะ) เมื่อผู้ใช้มีการเสียเหงื่อจากการทำงานโดยสวมใส่ถุงมือแพทย์แบบมีแป้งอยู่ จะทำให้ผู้ใช้ยังคงสวมใส่ได้ง่าย และยังสามารถทำงานได้คล่องแคล่วอยู่ เพราะแป้งในถุงมือจะช่วยดูดซับความชื้นในขณะที่เราสวมใส่ถุงมือ ทั้งยังทำหน้าที่หล่อลื่นอีกด้วย
เนื่องจากถุงมือยางแบบมีแป้งมีกรรมวิธีในการผลิตที่ซับซ้อนน้อยกว่าถุงมือชนิดอื่น เพราะไม่ต้องผ่านกระบวนการขจัดแป้ง จึงมีราคาที่ถูกกว่า จึงทำให้ช่วยลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี

ถุงมือยางแบบไม่มีแป้ง (Powder Free)
ข้อดีของถุงมือยางแบบไม่มีแป้ง คือไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ใดๆ ที่เกิดจากการแพ้แป้ง ไม่มีอาการระคายเคือง ถุงมือยางแบบไม่มีแป้งนี้ จะมีความหนากว่าแบบมีแป้งเล็กน้อย ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนผู้ใช้ไม่ได้สวมถุงมือ เนื่องจากมีความกระชับกับสริระของมือได้แนบชิดกว่านั้นเอง มีความเหนียว แข็งแรงทนทาน แม้ต้องผ่านการล้างคลอรีนที่มีความเข้มข้นสูง ถุงมือชนิดไม่มีแป้ง ก็ยังคงความเหนียว และทนทานไว้เหมือนเดิม แถมยังมีความสะอาด เพราะถุงมือได้ผ่านการล้างคลอรีนที่มีความเข้มข้นสูง จึงมั่นใจในความสะอาดและความอนามัยได้ พร้อมยังมีรุ่นที่ผลิตออกมาเพื่อสัมผัสอาหารได้ แยกออกไปอีกด้วยสำหรับผู้ที่ต้องใช้ในการทำอาหาร หรือเป็น พ่อครัว ร้านอาหารต่างๆ
สรุปแล้วถุงมือยางแบบมีแป้งไม่ใช่ว่าจะไม่ดี แต่ก็ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงานที่ทำ และดูว่าตัวผู้ใช้นั้นมีอาการแพ้หรือไม่จะดีกว่า ส่วนการเลือกใช้ถุงมือให้เหมาะสมจะช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างคล่องแคล่ว ไร้กังวล และสามารถประหยัดต้นทุนได้อีกด้วย

ถุงมือยางไนไตร อเนกประสงค์ ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย รวมถึงสามารถสัมผัสอาหารได้ เราขอแนะนำสินค้าคุณภาพ

: เรียบเรียงโดย นภัทร คำปา
ข้อมุลอ้างอิง
thai-safetywiki
สอบถาม หรือขอใบเสนอราคา
https://www.facebook.com/Glovetex.Safety
Tel. 083-989-7512 (เพื่อสอบถาม หรือขอใบเสนอราคา)
Line : @microtex หรือคลิก https://lin.ee/wgXULga

Related Posts