6 วิธีเลือกหน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันไวรัสและฝุ่นละออง
ในปัจจุบัน หน้ากากอนามัยมีหลากหลายยี่ห้อและราคาถูกวางขายในท้องตลาด แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าหน้ากากที่เราซื้อได้มาตรฐานและมีคุณสมบัติเพียงพอ? วันนี้เราขอนำเสนอวิธีตรวจสอบหน้ากากอนามัยที่ทำได้ง่ายๆ 6 ข้อ เพื่อช่วยให้คุณเลือกสินค้าที่เหมาะสมกับการใช้งาน
MICROTEX® CARE PLUS หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ตราไมโครเท็กซ์ แคร์พลัส รุ่น FM-402
MICROTEX®️ FaceMask KN95 ผ้าปิดจมูก ตราไมโครเท็กซ์ มาตรฐาน รุ่น KN95
CARE PLUS FACEMASK KF94 หน้ากากป้องกันฝุ่น ตราแคร์พลัส รุ่น KF94 (แบบซอง)
MICROTEX® CARE PLUS หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ตราไมโครเท็กซ์ แคร์พลัส รุ่น FM-501
1. ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์
หน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานต้องมีบรรจุภัณฑ์ที่สมบูรณ์ ไม่มีรอยบุบหรือถูกเปิดก่อนใช้งาน ข้อมูลบนฉลากต้องครบถ้วน เช่น
- ประเภทของหน้ากาก
- คำแนะนำการใช้งาน
- แหล่งผลิต
- วันผลิตและวันหมดอายุ
หากบรรจุภัณฑ์มีข้อบกพร่อง อาจเป็นสัญญาณของสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ
2. ไม่มีกลิ่นสารเคมีหรือพลาสติก
หน้ากากคุณภาพจะไม่มีละอองฟุ้งออกมาเมื่อขยี้ และไม่ควรมีกลิ่นฉุนของสารเคมีหรือพลาสติกที่อาจเป็นอันตรายต่อการสูดดม
3. ตรวจดูตำหนิ
ควรตรวจสอบว่าไม่มีรอยตำหนิหรือรอยเปื้อนบนหน้ากาก ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าหน้ากากนั้นอาจเป็นของใช้แล้วที่ถูกนำมาบรรจุใหม่
4. มีแผ่นกรองภายใน
หน้ากากที่ได้มาตรฐานจะมีแผ่นกรองที่ช่วยป้องกันเชื้อไวรัสและฝุ่นละออง แม้บางรุ่นจะมีหลายชั้น แต่หากไม่มีแผ่นกรองก็อาจไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน
5. สามารถกันน้ำและละอองน้ำได้
ทดลองหยดน้ำบนหน้ากาก หากน้ำไม่ซึมเข้าแสดงว่ามีคุณสมบัติกันน้ำดี อย่างไรก็ตาม บางรุ่นที่กันน้ำได้อาจไม่มีแผ่นกรองที่ช่วยป้องกันไวรัส ดังนั้นควรตรวจสอบด้านในด้วย
6. มีใบรับรองมาตรฐาน
เลือกหน้ากากที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน เช่น:
- ISO 13485: มาตรฐานระบบคุณภาพสำหรับเครื่องมือแพทย์
- EN 14683: มาตรฐานหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ในยุโรป
- KF94 KN95: เหมาะสำหรับการป้องกันฝุ่นละออง PM2.5 และเชื้อไวรัส
หน้ากากที่ไม่มีใบรับรองอาจไม่ได้มาตรฐานในการป้องกันโควิด-19 หรือสารปนเปื้อนในอากาศ
สอบถามข้อมูลตัวแทนฝ่ายขายเพิ่มเติม หรือขอใบเสนอราคา
ได้ที่ Call Center : 034-878762 ต่อ 3
หรือสามารคติดตามเราได้ที่ : คลิกที่นี่
สายด่วน 083 989 7512 (ฝ่ายขายทางโทรศัพท์)